ปลากะรังหรือปลาเก๋า
ชื่อสามัญ Greasy Grouper, Brown-Spotted Rockcod
ชื่อวิทยาศาสตร์ Epinephelus tauvina ( Forskal )
ขนาดลำตัว 90 เซนติเมตร
ลักษณะโดยทั่วไป
-
ปลาเก๋าสำหรับเลี้ยงเพื่อสวยงามนั้นมีอยู่หลายพันธุ์
โดยลักษณะโดยรวมๆของแต่ละพันธุ์จะมีลำตัวที่ค่อนข้างกลมเรียวปากกว้าง
ครีบมีลักษณะที่แข็งแรง
- ลำตัวยาวป้อม แบนข้างเล็กน้อย
เกล็ดเล็กสีตามตัวและครีบเป็นดอกดวง แต้ม หรือ บั้ง
ฉูดฉาดหรือคล้ำลึกแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดและขนาด
- ครีบหลังแบ่งเป็น 2 ตอน ตอนแรกเป็นก้านครีบแข็ง ตอนหลังเป็นครีบอ่่อนมีลักษณะโปร่งใส
แหล่งอาศัยของปลาเก๋า
- ได้แก่ตามพื้นทะเล ปลาเก๋านี้นอกจากเลี้ยงเพื่อความสวยงามแล้ว นิยมนำมารับประทานด้วย
- ปลาเก่านี้สามารถพบได้ ทั้งน้ำทะเล น้ำจืด และน้ำกร่อย
ขนาดของปลาเก๋า
- ปลาเมื่อโตเต็มที่แล้วจะยาวประมาณ 90 เซนติเมตร
- แต่ในบางชนิดแล้วมีขนาดความยาวไม่ีกี่เซนติเมตร จนถึง 2.5 เมตรหรือ 3 เมตร หนักถึง 400กิโลกรัม ซึ่งเป็นชนิดหนึ่งของปลาในสกุลนี้
ปลาเก่าบางชนิดสามารถปรับเปลี่ยนเพศได้ตามวัย
ซึ่งในบางชนิดเล็กจะเป็นเพศเมียแต่เมื่อโตขึ้นน้ำหนักราว 7 กิโลกรัม
จะเป็นเปลี่ยนกลายเป็นเพศผู้
ปลากะรังจิ๋ว
ชื่อสามัญ Lyretail basslet
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pseudanthias squaamipinnis
ขนาดลำตัว 15 เซนติเมตร
ลักษณะโดยทั่วไป
- ปลาเก๋าจิ๋ว
เป็นปลาสวยงามจัดอยู่ในตระกูลปลาเก๋า หรือปลากะรังเช่นกัน
แต่ขนาดเล็กกว่ากันมาก พวกมันกินแพลงตอนและปะการังอ่อนเป็นอาหาร
ปลากะรังจิ๋วมีสีสันสวยงามน่าเลี้ยง มีหลายพันธุ์มากมาย เช่น Yellow
spotted anthias ,Square anthias , Brazillan gramma, Harlequin basslet,
Royal gramma เป็นต้น
สำหรับปลาเก๋าที่พบในทะเล
มักมีนิสัยชอบอยู่ตามลำพังหรือเป็นคู่โดยไม่กี่ตัวตามโขดหิน
แนวปะการังหรือกองหิน กองซากปรักหักพังใต้น้ำ ออกหาหินในเวลากลางคืน
สามารถพบได้ตามปากแม่น้ำหรือตามป่าชายเลน
- ปลาเก่า
มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอย่างมาก
เพราะปลาเก๋าหลายชนิดนิยมใช้เพื่อบริโภคเป็นปลาเศรษฐกิจ เช่น
ปลากะรังปากแม่น้ำ หรือ ปลาเก๋าเสือ
ซึงมีการเพาะเลี้ยงเป็นอาชีพเพื่อบริโภค ดดยนิยมเลี้ยงในกระชัง