ชนิดของปลา
ชนิดของปลาแบ่งออกได้ตามประเภทของปลาใหญ่
ๆ ได้ 3 ประเภท คือ ปลาน้ำจืด, ปลาน้ำกร่อย และปลาน้ำเค็ม นอกจากนี้แล้วยังมีปลาอีกประเภท
ซึ่งเป็นปลาที่พิการหรือมีความผิดปกติทางด้านเม็ดสีที่ทำให้มีรูปร่างและสีสันแตกต่างออกไปจากปลาปกติทั่วไป
เรียกว่า "ปลาแปลก" ก็เป็นที่นิยมเลี้ยงอีกเช่นกัน
และมีราคาที่สูงกว่าปลาปกติเสียอีก
ปลาสวยงามในประเทศไทย
ในประเทศไทย
การเลี้ยงปลาสวยงามนั้นมีมานานแล้วตั้งแต่ยุคโบราณ
คนไทยนิยมเลี้ยงปลาที่เป็นปลาพื้นบ้าน อาทิ ปลากัดหรือปลาเข็มที่ได้พัฒนาสายพันธุ์ให้ใหญ่กว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีอยู่ในธรรมชาติ
เพื่อการต่อสู้กันถือเป็นการละเล่นพื้นบ้านชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับการชนไก่ โดยมีการพนันผสมอยู่ด้วย
สมัยรัชกาลที่ 5 ปลาหางนกยูงได้ถูกนำเข้ามาเลี้ยงในอ่างบัวเป็นครั้งแรก
ตามบ้านของเศรษฐีและผู้มีฐานะในสังคม ดั่งปรากฏความอยู่ในนวนิยายเรื่อง "สี่แผ่นดิน" ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ความตอนหนึ่งบรรยายถึง แม่พลอย ตัวละครเอกของเรื่อง
นั่งดูปลาหางนกยูงในอ่างบัว
ต่อมา ในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และหลังสงครามยุติไม่นาน
ได้มีผู้ประกอบการส่งออกปลาสวยงามไปสู่ต่างประเทศ
โดยทำการรวบรวมพันธุ์ปลาพื้นบ้านจากแหล่งน้ำในธรรมชาติเป็นหลัก
และจากการเพาะพันธุ์บางส่วน คือ นายสมพงษ์ เล็กอารีย์ และนายพิบูลย์ ประวิชัย ซึ่งร่วมกันในนาม "สมพงษ์ อะควาเรี่ยม"
จัดได้ว่าเป็นผู้ประกอบการค้าปลาสวยงามอย่างเป็นล่ำเป็นสันรายแรก ๆ
โดยเฉพาะนายสมพงษ์นั้น เป็นผู้ค้นพบพันธุ์ปลาชนิดใหม่ของโลกด้วยอย่างน้อย 3
ชนิด ซึ่งสมพงษ์ อะควาเรี่ยม นั้นก็ยังดำเนินกิจการจนถึงปัจจุบัน
ขณะที่ปลาทอง
ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
จากเบื้องต้นเป็นชาวจีนหรือชาวไทยเชื้อสายจีนที่นิยมเลี้ยงไว้เพื่อความเชื่อว่านำพาความโชคดีหรือโชคลาภมาสู่ผู้เลี้ยง
ในราวปี พ.ศ. 2500-2501
ยังเป็นการเลี้ยงกันในแวดวงแคบ ๆ ก่อนที่จะมีผู้พบว่า
สามารถเพาะขยายพันธุ์เพื่อทำการค้าได้ จึงขยายความนิยมในการเลี้ยงตามมา
ร้านค้าหรือแหล่งที่เป็นแหล่งซื้อขายปลาทองและปลาสวยงาม อยู่ที่ตลาดนัดสนามหลวง และเยาวราช ซึ่งในยุคนั้นซึ่งยังไม่มีตลาดนัดสวนจตุจักรหรือร้านขายปลาสวยงามมากมายอย่างในปัจจุบัน
เมื่อมีการซื้อขายกันแล้ว ผู้ขายจะเทปลาลงในกระป๋องนมข้นหวานที่ทำจากดีบุก
โดยไม่ได้ใส่ถุงพลาสติกอย่างในปัจจุบัน แม้แต่การบรรจุออกซิเจนก็ไม่มี
ต่อมาเมื่อมีถุงพลาสติก ก็ใช้วิธีการมัดถุงแบบถุงกาแฟแล้วใช้เชือกกล้วยมัด
ปัจจุบัน
การเลี้ยงปลาสวยงามนั้นได้รับความนิยมอย่างมาก
โดยถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่นิยมเลี้ยงกันมากเช่นเดียวกับ สุนัขและแมว
โดยมีหลักค้าขายใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี คือ ตลาดซันเดย์ในบริเวณตลาดนัดสวนจตุจักร และอีกที่
คือ ตลาดธนบุรี หรือที่นิยมเรียกกันว่า
สนามหลวง 2 ซึ่งเป็นสัดส่วนของตลาดนัดฝั่งธนบุรี
จนเกิดเป็นอุตสาหกรรมการเพาะขยายพันธุ์และการค้าขายอีกประเภทหนึ่ง
โดยที่แหล่งเพาะพันธุ์ใหญ่ที่สุดของประเทศ
อยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีการจัดตั้งขึ้นเป็นสหกรณ์
โดยการรวมกลุ่มกันของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยง
สำหรับอุตสาหกรรมปลาสวยงามในประเทศไทยแล้ว
ถือได้ว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และส่งออกไปขายยังต่างประเทศมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
โดยมีมูลค่าการส่งออกปีหนึ่งประมาณ 2,000 ล้านบาท
แต่ปลาที่เพาะพันธุ์ได้และจับจากแหล่งธรรมชาติภายในประเทศมีสัดส่วนค้าขายภายในประเทศเพียงแค่ร้อยละ
1 เท่านั้น
และยังมีการจัดงานนิทรรศการเกี่ยวกับปลาสวยงามขึ้นเป็นประจำ
เช่น งานประมงน้อมเกล้าฯ ที่จัดโดย กรมประมง และ
งานปลาสวยงามแห่งชาติ ที่จัดโดย บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป ร่วมกับ
สมาคมปลาสวยงามแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ซึ่งภายในงานจะมีทั้งการแสดงพันธุ์ปลาชนิดต่าง ๆ การประกวด การจัดตกแต่งตู้ปลา
การขายปลาสวยงามและอุปกรณ์
รวมทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องปลาและสัตว์ประเภทต่าง ๆ อีกด้วย
ปลาสวยงามในต่างประเทศ
สำหรับกิจการปลาสวยงามในต่างประเทศหรือระดับสากลนั้น
จะมีศูนย์กลางอยู่ที่เอเชียอาคเนย์เป็นหลัก เพราะมีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงและเลี้ยงดู
หลายประเทศในภูมิภาคแถบนี้จึงมีฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาสวยงามอยู่มากมาย ทั้ง ประเทศไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และสิงคโปร์
โดยเฉพาะที่สิงคโปร์มีฟาร์มเพาะพันธุ์ปลามังกรหรือปลาอะโรวาน่าในระดับชั้นนำอยู่มากมาย
และจัดได้ว่าเป็นประเทศที่เป็นผู้ส่งออกปลาสวยงามสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก กินส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 20.71 ของโลก ในปี พ.ศ. 2550 มีมูลค่าการส่งออกมากถึง 319.093 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อีกทั้งเป็นประเทศที่ทุกปีจะมีงานนิทรรศการปลาสวยงามระดับโลก
คือ Aquarama
ซึ่งจะจัดเป็นประจำในปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี
นับได้ว่าเป็นงานที่รวมของผู้ที่สนใจและนักธุรกิจในแวดวงปลาสวยงามทั่วโลกอย่างแท้จริง
โดยเริ่มจัดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2532 จนถึงปัจจุบัน
ที่ฮ่องกง มีตลาดค้าปลาสวยงามแห่งใหญ่
อยู่ย่านมงก๊ก ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อ
มีชื่อว่า Goldfish Market โดยเดินทางใช้รถไฟใต้ดิน
ลงที่สถานีมงก๊ก ออกทางสถานี B3 ตลาดจะอยู่ห่างออกไปประมาณ 500
เมตร ของถนนถ่งไช่
ที่ตลาดแหล่งนี้จะเป็นอาคารพาณิชย์ขนานกันสองฝั่งยาวไปตามทางถนน ซึ่งการขายปลาสวยงามที่นี่ส่วนใหญ่ด้วยเหตุจำกัดเรื่องเนื้อที่ที่มีอยู่ไม่มาก
ผู้ค้าจึงมักนำปลาบรรจุใส่ถุงแล้วแขวนไว้โชว์สำหรับลูกค้า
ผิดไปจากการค้าขายปลาสวยงามในหลาย ๆ ประเทศ ไม่เว้นแม้กระทั่งปลามังกรที่มีราคาแพง
ซึ่งธุรกิจปลาสวยงามของที่นี่จะมีผู้ค้าส่งนำปลาชนิดใหม่ ๆ เข้ามาทดลองตลาดก่อน
ก่อนจะกระจายไปสู่ผู้ค้าปลีกรายอื่น ๆ รวมถึงในหลายประเทศด้วย
ที่นี่จึงมักมีปลาชนิดใหม่เข้าสู่ตลาดก่อนที่อื่นเสมอ แต่ราคาของอาหารปลาแบบสดนั้น
เช่น ไรทะเลมีราคาขายที่สูงมาก
เว็บไซต์ปลาสวยงามของไทย
เว็บไซต์ปลาสวยงามเว็บแรกที่เกิดขึ้นในเมืองไทยคือ
เว็บไซต์นายเก๋าดอตคอม ninekaow.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น